ประวัติพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อสมหวัง
เทวดาผู้รักษาดูแลองค์หลวงพ่อทับทิมพระประธานในอุโบสถ ได้เข้ามานั่งในสถานที่อันควรพร้อมกับกราบนมัสการ แล้วกล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นเทวดาผู้รักษาพระประธานในอุโบสถของอารามนี้ ซึ่งเป็นอารามเก่า มีนามอันเป็นมงคลว่า “วัดกลางบางพระ ตำบลบางพระ” สมควรที่จะได้สร้างพระพุทธรูปไว้ในใจกลางของชุมชนเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้มากราบไหว้บูชา พร้อมกับให้สร้างไว้กลางแจ้ง ตามหลักของวิชามหาจตุรธาตุ (วิชาธาตุ ๔) ขนาดของพระพุทธรูปมีปรากฏอยู่ในตำราเก่า (วิชาธาตุ ๔) บนหอสวดมนต์แล้ว เมื่อสร้างเสร็จให้นำพระพุทธรูปเก่าองค์ประธานบนหอสวดมนต์บรรจุไว้ด้านในองค์พระด้วย ต่อไปในกาลข้างหน้า วัดนี้จะได้มีโอกาสช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เลือกชั้นวรรณะและจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป” เสร็จแล้วเทวดาผู้นั้นก็กราบนมัสการอีกครั้งแล้วจากไป
เดิมทีนั้นชาวบ้านเรียกหลวงพ่อสมหวังกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” เพราะเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อใหญ่ ได้มีประชาชนมากราบสักการะขอพร บนบานสานกล่าวกันเป็นจำนวนมาก พร้อมกับสมหวังดังตั้งใจตามที่มาขอพรกันไว้ จึงมาทำการแก้บนกันอย่างมาก พร้อมกับขนานนามท่านว่า“หลวงพ่อสมหวัง” นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๓๔ เป็นต้นมา
ปัจจุบันทางวัดได้หล่อองค์จำลองไว้ที่ด้านหน้าขององค์ใหญ่เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ผู้มีความเคารพศรัทธาได้กราบสักการบูชา ปิดทองและขอพร พร้อมกันนี้ ยังเปิดโอกาสให้เขียนแผ่นดวง “ ยันต์มหาพิชัยสงคราม ” (ยันต์พลิกชีวิต) พร้อมจารึกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด บรรจุฝากดวงกับองค์หลวงพ่อสมหวัง(ช่องด้านหน้าที่ฐานองค์ใหญ่) เพื่อความเป็นสิริมงคล แก้ปีชง แคล้วคลาดปลอดภัย ร่วมเย็นเป็นสุข กับท่านทั้งหลายที่มีโอกาสเดินทางมากราบสักการะขอพรองค์หลวงพ่อสมหวัง (ซึ่งมีที่นี่ที่เดียว) ที่เปิดโอกาสให้บรรจุฝากดวงกับพระประธานองค์ใหญ่และมีชื่อวัดว่า “วัดกลางบางพระ” มีชุมชนที่ตั้งวัดชื่อว่า “ตำบลบางพระ” อยู่ใน “อำเภอนครชัยศรี” ซึ่งเป็นเมืองอันสง่างามด้วยชัยชนะแห่งความดี และตั้งอยู่ในจังหวัด “นครปฐม” ซึ่งเป็นเมืองแรกที่พระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ยังประเทศไทยตามตำนาน จึงได้ชื่อว่า “ปฐมนครแห่งพระพุทธศาสนา” จัดว่าเป็นมงคลที่สุดสำหรับชีวิต ที่ได้ “ฝากดวงกับองค์หลวงพ่อสมหวัง” ฝากดวงไว้กับองค์พระประธานหลวงพ่อสมหวัง สมดังปรารถนา เงินทองไหลมา นะชาลีติ กิจการก้าวหน้า แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายร่ำรวย เฮงตลอดปี ดีตลอดไป
ปัจจุบัน วัดกลางบางพระได้กำหนดจัดงานบำเพ็ญกุศลถวายองค์หลวงพ่อสมหวังในวันที่ ๒๒ เมษายน ของทุกปี (ซึ่งตรงกับวันรับนิมิตจากเทวดาในการจัดสร้างองค์หลวงพ่อสมหวัง) เพื่อทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร และพิธีทำบุญแจกทานให้กับผู้ยากไร้เพื่อความเป็นสิริมงคลกับบรรดาผู้ที่มีความศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อสมหวัง โดยทั่วกัน
--------------------------พระครูศรีสุตากร
เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ
๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อมูลเพิ่มเติม
Admin ไปกราบนมัสการหลวงพ่อสมหวัง ช่วงบ่าย แดดค่อนข้างร้อน ท่ามกลางสถานการณ์ Covid-19 ที่เข้มงวด ด้วยการป้องกันและตรวจสอบทุกจุดทุกมุมของประเทศ
ในวัด ก่อนเข้าไปไหว้หลวงพ่อ มีเจ้าหน้าที่ แต่งชุด อปพร. ตรวจวัดไข้ ยิงกระหน่ำ แบบไม่ยั้ง ไม่เกรงใจ ใครเข้ามากราบไว้สักการะหลวงพ่อสมหวัง เป็นโดนยิงทุกคน และการเข้าไป ต้องเวันระยะห่าง ไม่ให้เบียดกันเข้าไป มีโฆษกฝีปากเอก คอยแนะนำ ว่าควรไปไหน ทำทำอย่างไร และนานๆ หมอก็จะร้องเพลงสุรพลให้ฟัง ด้วยเสียงแบบกาละมังแตก (หมอตั้งใจร้องแบบนั้น) เพื่อเรียกเสียงฮา
บันไดทางขึ้น ปูพรมกันร้อน กันลื่น เพื่อให้เดินได้สะดวก ส่วนพื้นรอบฐานหลวงพ่อเป็นพื้นหินอ่อนเปล่าๆ อากาศค่อนข้างร้อน ทำให้พื้นทางเดิน ร้อนเอาเรื่อง เพราะเป็นหินอ่อน และการเดิน ต้องถอดรองเท้าไว้ตั้งแต่ชั้นล่าง เขย่่งเท้าเดินกันไป เพราะแรงศรัทธา
หลังจากกราบสักการะหลวงพ่อสมหวัง ทางออก โฆษกเสียงเอก ยังเชิญชวนให้หยิบไข่ต้มที่มีผู้นำมาแก้บนไว้ หลายถาด หยิบมา 4 ใบ เพื่อไม่ให้เสียศรัทธาผู้ให้ จากนั้น เดินวนรอบไปทางอุโบสถ
เป็นที่น่่าเสียดายเหลือเกิน ผู้คนในวัด และผู้คนนอกวัดต่างศรัทธา ไปไว้หลวงพ่อสมหวังกันหมด แต่ไม่มีใครมาดูแลอุโบสถเลย เพราะรอบอุโบสถ เต็มไปด้วยหยากไย่และขี้นกพิราบ พื้นระเบียงทางเดิน แทบเดินไม่ได้เลย ใครที่อยากทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ หากวาดอาวาส วิหาร ลานเจดีย์ หากไปที่นี่ ได้กวาด และภูมิใจ อิ่มใจอย่างแน่นอน
ข้างๆ ระเบียงอุโบสถ ยังมีอุโบสถหลังเก่า และมีไม้ตะเคียนให้กราบไหว้บูชาหลายท่อน และมีซากหอย 800,000 ปี กองอยู่ในคอกกั้น นอกจากนั้น ยังมีวัตถุโบราณต่างๆ ที่สะสมไว้ แต่ไม่ค่อยได้รับการดูแล (น่าเสียดาย)
หากมากราบสักการะหลวงพ่อสมหวัง เกรงจะไม่มีห้องน้ำ ไม่ต้องห่วง วัดนี้ มีห้องน้ำสะอาด ไว้บริการ อยู่ข้างเมรุ หลังอุโบสถ และมีแม่บ้านคอยทำความสะอาดอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่รู้ทำไม ไม่ขึ้นไปกวาดที่ระเบียงอุโบสถเลย หรือเบื่อนก กวาดไม่ไหว ก็ไม่ทราบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น